Follow Me

ความทรงจำต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 มิรู้เลือน จากใจ นายขำ นุชิตศิริภัทรา


ความปลาบปลื้มครั้งหนึ่งในชีวิตของข้าพเจ้าที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดขึ้นในปี 2502 เมื่อครั้งเสด็จประพาสภาคใต้ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งตรังคือหนึ่งในจังหวัดที่ท่านเสด็จเยือน ขณะนั้นข้าพเจ้าอายุเพียง 19 ปี ตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเลยทีเดียว เมื่อทราบข่าวว่าจังหวัดตรังอยู่ในเส้นทางเสด็จของท่านก็ปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดไม่ได้ รวมทั้งชาวตรังทั้งจังหวัด เฝ้ารอชมพระบารมีของทั้งสองพระองค์

 

และตอนนั้นข้าพเจ้ายังทำหน้าที่เป็น “นักข่าวพิเศษ” รายงานข่าวให้กับวารสารสกุลไทย ขณะนั้นเล่มละ 3.50 บาทเท่านั้น

วันที่ 16 มีนาคม 2502 ข้าพเจ้าจำได้ดี เป็นวันที่ขบวนเสด็จของในหลวงรัชกาลที่ 9 และราชินีเสด็จมาถึงตัวเมืองตรัง ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้า ที่ทรงให้พสกนิกรชาวตรัง ได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และถวายความจงรักภักดี โดยใกล้ชิด ข้าพเจ้าได้บันทึกบรรยากาศและความปลาบปลื้มของชาวเมืองตรัง มาถ่ายทอดในวารสารสกุลไทย โดยใช้นามปากกาว่า “ขำ หวังดี”

 

ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้รายงานข่าวในวาสารสกุลไทยไว้ดังนี้


หลังจากองค์ประมุขแห่งชาติทั้งสองพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมเยือนพสกนิกรชาวภาคใต้หลายจังหวัดเรื่อยมา จนกระทั่งถึงจังหวัดตรัง ซึ่งประชาชนได้รอเฝ้าพระบารมีกันอย่างคับคั่ง พ.ต.อ.บุญณรงค์ วัฑฒนายน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เป็นประธานในการต้อนรับเสด็จครั้งนี้อย่างมโหฬาร...

 

เวลา ๑๐.๐๐ น. กองเกียรติยศ ตำรวจภูธรภาค ๗ เดินขบวนเตรียมรับเสด็จรอบๆ บริเวณตลาด ต่อจากนั้นขบวนพาเหรดจากนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ก็เดินแถวหยุดรายเรียงตามทางผ่านสองถนน เพื่อเฝ้ารับเสด็จ ท่ามกลางแสงแดดที่อ่อนๆ และประชาชนจากทุกอำเภอมารอรับเฝ้าชมบุญบารมีกันแน่นขนัด ทุกอาคารบ้านเรือนประดับธงทิวโบกสะบัด ทำให้บรรยากาศของวันนั้นอบอวลไปด้วยความซาบซึ้งตรึงใจของประชาชนทุกคน ในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์

 

จวบจนกระทั่งถึงเวลา ๑๓.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จถึงซุ้มต้อนรับของจังหวัด พระเถรานุเถระพระพุทธมนต์สวดถวายพระพรชัย...ต่อจากนั้นก็เสด็จผ่านมาตามถนนวิเศษกุลเลี้ยวลงถนนราชดำเนิน ประชาชนเปล่งเสียงไชโยโห่ร้องต้อนรับ พระภิกษุสงฆ์ประพรมพระพุทธมนต์สวดชัยมงคลคาถา ขบวนเสด็จจึงได้ค่อยๆ เคลื่อนผ่านประชาชนสองฟากถนน เลี้ยวขึ้นถนนกันตัง ผ่านซุ้มรับเสด็จต่างๆ ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องก้องมาทุกระยะ สองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ ยิ้มรับทักทายด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระกรุณาธิคุณนำความปลาบปลื้มปีติมาสู่ราษฎรอย่างล้นเหลือ...

 

ต่อจากนั้นรถพระที่นั่งก็เคลื่อนไปตามถนนพระรามหก วกลงถนนวิเศษกุล เสด็จต่อไปยังที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งๆ ได้จัดไว้สำหรับประทับแรมชั่วคราว เวลา ๑๓.๓๐ น.ทรงพระเสวยกระยาหาร บนจวนที่จัดเป็นพระตำหนักชั่วคราว เวลา ๑๔.๐๐ น.เสด็จไปน้ำตกกระช่อง กลับถึงที่ประทับแรม ๑๖.๓๐ น.

 

เวลา ๑๗ .๓๐น.เสด็จออกพลับพลาไชยชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดตรัง สองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินทรงทักทายกับพสกนิกรถ้วนหน้าถามข่าวสาระทุกข์สุขดิบอย่างใกล้ชิดด้วยพระองค์เอง ทรงรับของถวายและช่อดอกไม้จากผู้นำมาถวายด้วยการตรัสขอบใจตลอดเวลา

 

จนกระทั่งถึงเวลา ๑๘.๐๐ น.จึงเสด็จกลับมายังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เวลา ๑๘.๓๐ น.ทอดพระเนตรการแสดงมหรสพพื้นเมือง หน้าที่ประทับ ซึ่งคณะจัดต้อนรับเสด็จเล่นถวาย มีรำอวยพร, มโนราห์, รองเง็ง ต่อจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บรรดาพ่อค้า ข้าราชการ, และภริยา  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รุ่งขึ้นวันที่ ๑๗ มีนาคม เวลา ๙.๐๐ น.ทรงอำลาประชาชนเสด็จจากจังหวัดตรัง ไปจังหวัดพัทลุง 

 

รายงานข่าวโดย “ขำ หวังดี”





หลังจากนั้นและตลอดการครองราชย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนจังหวัดตรังอีกนับสิบครั้ง ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2502 เป็นครั้งที่ข้าพเจ้าจดจำได้แม่นยำ เพราะข้าพเจ้าได้ติดตามและรายงานข่าวบรรยากาศและความปลาบปลื้มของชาวตรังที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 และราชินี ซึ่งจะจารึกอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าอย่างไม่รู้เลือน

 

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ 

ข้าพระพุทธเจ้า นายขำ นุชิตศิริภัทรา






แสดงความคิดเห็น

no

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *